นักแสดงสาว ซอฮยอนจิน (Seo Hyun Jin) ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงค่าเช่าแบบ Jeonse ซอฮยอนจินตกเป็นเหยื่อของคดีฉ้อโกง ตามข้อมูลจากระบบการประมูลของศาลฎีกาและทะเบียนอสังหาริมทรัพย์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ซอฮยอนจินได้ยื่นขอประมูลทรัพย์ด้วยตัวเองเมื่อเดือนเมษายน หลังไม่ได้รับเงินมัดจำค่าเช่าคืนสำหรับวิลล่าหรูในย่านชองดัมดง เขตคังนัม กรุงโซล ในเดือนเมษายน ปี 2020 ซอฮยอนจินได้ทำสัญญาเช่าแบบ Jeonse สำหรับวิลล่าหรูมูลค่า 2.5 พันล้านวอน (ประมาณ 67.5 ล้านบาท) และได้ดำเนินการจดทะเบียนตามกฎหมายเรียบร้อย ต่อมาในปี 2022 เธอได้ต่อสัญญาโดยเพิ่มวงเงินเช่าเป็น 2.625 พันล้านวอน (ประมาณ 70.9 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 125 ล้านวอน (ประมาณ 3.4 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เมื่อสัญญาหมดอายุในเดือนเมษายน 2024 เจ้าของบ้านกลับไม่คืนเงินมัดจำให้ ด้วยเหตุนี้ ซอฮยอนจินจึงดำเนินการจดทะเบียนสิทธิการเช่าในเดือนกันยายน 2024 และย้ายออกจากบ้าน จากนั้นในเดือนเมษายน 2025 เธอได้เริ่มกระบวนการยื่นขอประมูลทรัพย์ด้วยตนเอง หลังจากการประมูลรอบแรกไม่ประสบความสำเร็จ มูลค่าทรัพย์ที่เคยประเมินไว้ที่ 2.873 พันล้านวอน (ประมาณ 77.6 ล้านบาท) ลดลงเหลือขั้นต่ำเพียง 2.2989 พันล้านวอน (ประมาณ 62.1 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าจำนวนเงินที่เธอจ่ายไปตามสัญญาเช่า ด้วยเหตุนี้ อาคารหลังดังกล่าวจึงถูกจัดประเภทเป็น “깡통주택” หรือ “บ้านกระป๋อง” ซึ่งหมายถึงทรัพย์สินที่มูลค่าต่ำกว่าจำนวนเงินที่ผู้เช่าจ่ายไว้ ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง เพื่อที่จะได้รับเงินคืนครบเต็มจำนวน ซอฮยอนจินจำเป็นต้องมีผู้มาประมูลทรัพย์ในราคาสูงกว่า 2.6 พันล้านวอน (ประมาณ 70.2 ล้านบาท) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์มองว่าเป็นไปได้ยากในสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังตกต่ำในปัจจุบัน เมื่อถูกถามเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ต้นสังกัดของซอฮยอนจิน “Management Soop” ตอบว่า “เป็นเรื่องส่วนตัวของนักแสดง จึงไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล” Jeonse คืออะไร? Jeonse (전세) คือระบบการเช่าที่ไม่เหมือนใครของเกาหลีใต้ โดยผู้เช่าจะจ่ายเงินมัดจำก้อนใหญ่ให้เจ้าของบ้าน ซึ่งมักอยู่ที่ 50–80% ของมูลค่าทรัพย์สิน แทนการจ่ายค่าเช่ารายเดือน เจ้าของบ้านจะถือเงินนั้นไว้ตลอดระยะเวลาสัญญา (มักประมาณ 2 ปี) และจะคืนให้ผู้เช่าเมื่อย้ายออก ระหว่างนั้น เจ้าของบ้านสามารถนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนหรือใช้สร้างผลตอบแทนได้ Jeonse ได้รับความนิยมเพราะผู้เช่าสามารถอยู่อาศัยได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารายเดือน ขณะที่เจ้าของบ้านก็สามารถเข้าถึงเงินทุนก้อนโตโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย   ที่มา Popcornfor2 รูป NEWS1

นักแสดงหนุ่ม บยอนอูซอก (Byun Woo Seok) ได้เผยเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจผ่านวิดีโอ Vlog ท่องเที่ยวที่ถ่ายทำที่เกาะซิซิลี ซึ่งอัปโหลดผ่านช่อง YouTube Varo Playlist เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะจิบ น้ำส้มสด เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เวลาเดินทาง ผมคิดว่าแค่จองที่พักกับวางแผนไว้สัก 1–2 อย่างที่อยากกินก็พอ แบบนั้นเราจะได้สนุกไปกับการสำรวจพื้นที่โดยรอบได้มากขึ้น” เขายังพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและแฝงความคิดถึงว่า “คุณมักจะเจอสิ่งที่ดีที่สุดในวันสุดท้ายของทริป แล้วก็จะคิดว่า ‘รู้งี้มาที่นี่ตั้งแต่แรกดีกว่า’” เมื่อพูดถึงความสำคัญของการบันทึกความทรงจำผ่านวิดีโอ เขากล่าวว่า “ผมชอบวิดีโอตรงที่มันสามารถเก็บช่วงเวลาแบบนี้ไว้ได้” ซึ่งพนักงานจากต้นสังกัดที่ร่วมเดินทางกับเขาก็เห็นด้วยว่า “ช่วงวัยหนุ่มของคุณกำลังถูกบันทึกไว้ และแฟนๆ ชอบสิ่งนั้นมากจริงๆ” บทสนทนาดังกล่าวทำให้ บยอนอูซอกถึงกับน้ำตาคลอ ดูเหมือนว่าเขากำลังหวนคิดถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังจากเดบิวต์ เขาปาดน้ำตาพร้อมยิ้มเขิน และเปลี่ยนบรรยากาศให้สดใสขึ้นด้วยการพูดติดตลกว่า “แค่เพราะอาหารอร่อยเท่านั้นเองครับ” โมเมนต์ซึ้งๆ นี้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความขอบคุณของเขาที่มีต่อเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา และทำให้แฟนๆ ยิ่งรักเขามากขึ้นอีกขั้น   ที่มา Popcornfor2 รูป YouTube Channel ‘VARO Playlist’

ซนซอกกู (Son Suk Ku) เปิดเผยความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมน้ำหนักสำหรับบทบาทใหม่ที่เขากำลังจะรับ โดยต้องลดน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัม ในรายการ Whenever Possible ทางช่อง SBS ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม นักแสดง ซนซอกกู และ คิมดามี (Kim Da Mi ) ได้มาเป็นแขกรับเชิญ คิมดามีซึ่งเป็นหน้าใหม่ในรายการวาไรตี้แสดงอาการประหม่าเมื่อปรากฏตัว พร้อมกล่าวว่า “มีกล้องเยอะมากเลยค่ะ” ซนซอกกูเสริมว่า “รู้สึกเหมือนแถลงข่าวเลย” ทางด้านยูแจซอกตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “นี่ถือว่ายังไม่เยอะนะครับ” คิมดามีเผยว่า นี่เป็นการออกรายการวาไรตี้ครั้งแรกของเธอ พร้อมอธิบายว่า “ที่ไม่เคยออกวาไรตี้มาก่อนก็เพราะรู้สึกเขินๆ น่ะค่ะ” แต่เธอก็กล่าวติดตลกว่า “แต่เมื่อคืนฉันนอนหลับสบายดีนะคะ” ในช่วงหนึ่งของรายการ ยูแจซอกแตะตัวซนซอกกูแล้วพูดว่า “คุณฟิตมากเลย หน้าอกแน่นเชียว!” ซนซอกกูจึงแกล้งตอบว่า “อันนั้นจริงๆ คือไหล่ผมครับ” ทำเอาทุกคนหัวเราะกันลั่น จากนั้นซนซอกกูก็สารภาพว่า “ผมต้องลดน้ำหนักครับ ผู้กำกับของผลงานใหม่แนะนำให้ผมลดลงเยอะๆ ผมก็เห็นด้วยนะว่าก็ดีเหมือนกัน เป้าหมายคือจะลดให้ได้ 10 กิโล แต่ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย ก็เลยกังวลครับ” ยูยอนซอก (Yoo Yeon Seok) ที่เคยลดน้ำหนักมาก่อนแนะนำว่าให้ลดแป้ง โดยบอกว่า “ผมกินอาหารทะเลเป็นหลัก แล้วก็หลีกเลี่ยงข้าวครับ” ซนซอกกูที่ชอบกินอาหารจึงถามแบบทำหน้างอๆ ว่า “แม้แต่ข้าวกล้องก็ไม่ได้เหรอครับ?” ทำให้ทุกคนหัวเราะอีกครั้ง นอกจากนี้ ซนซอกกูยังพูดถึงความรู้สึกในกองถ่ายว่า “เวลาถ่ายทำ ผมอยากกลับบ้านไวๆ เลยครับ บางครั้งก็คิดว่า ‘หรือผมหมดไฟแล้วนะ?’ แค่ถ่ายซีนเดียวก็อยากกลับบ้านแล้ว” ขณะที่คิมดามีก็เผยความรู้สึกในแบบของตัวเองว่า “ฉันอยากกลับบ้านตั้งแต่เริ่มแต่งหน้าแล้วค่ะ” แต่ซนซอกกูกลับตอบในเชิงตรงข้ามว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นนะตอนที่แต่งหน้า” พูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคน คิมดามีกล่าวว่า “เราสนิทกันตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำเลยค่ะ” ซนซอกกูก็เห็นด้วยและอธิบายว่า “ผมคิดว่าเราใกล้ชิดกันเร็วเพราะเป็นสองตัวละครที่เป็นแกนหลักของเรื่องครับ”   ที่มา Popcornfor2 รูป SBS

นักแสดงสาว โกมินซี (Go Min Si) ตกเป็นประเด็นในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน ซึ่งทางต้นสังกัดได้ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่น เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ตัวแทนจากต้นสังกัด Mystic Story (Mystic Actors) ให้สัมภาษณ์กับสื่อ iMBC ว่า “เราทราบถึงโพสต์ดังกล่าวแล้ว และเราเชื่อมั่นในตัวนักแสดง ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้มูลความจริง” ก่อนหน้านั้นไม่นาน มีโพสต์หนึ่งในชุมชนออนไลน์ชื่อว่า ‘พวกเราเป็นเหยื่อของการรังแกในโรงเรียนโดยนักแสดงโก ○○’ ซึ่งผู้เขียนอ้างว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าของนักแสดงหญิงคนหนึ่ง โดยเล่าถึงพฤติกรรมรุนแรงและผิดจริยธรรมของเธอในช่วงมัธยมต้น แม้โพสต์จะไม่ได้ระบุชื่ออย่างชัดเจน แต่ชาวเน็ตหลายคนคาดว่าเป็น โกมินซี จากการอ้างอิงชื่อจริงในอดีต รูปภาพเก่า ๆ และเหตุการณ์ที่เธอเคยขอโทษเรื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงยังไม่บรรลุนิติภาวะเมื่อปี 2020 ผู้โพสต์กล่าวหาว่า นักแสดงสาวเคย ‘รังแกเพื่อนหลายคน ขู่กรรโชกเงินและของใช้ ใช้คำพูดรุนแรง และล้อเลียนนักเรียนที่มีความพิการ’ รวมถึงอ้างว่าเธอเคยพาเพื่อนนอกโรงเรียนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมาข่มขู่เพื่อนในโรงเรียน และโอ้อวดเกี่ยวกับการกระทำของตนเอง แม้จะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง แต่ต้นสังกัด Mystic Story ก็ออกมายืนหยัดสนับสนุนโกมินซี โดยยืนยันว่าข้อกล่าวหานั้น เป็นเท็จ โกมินซีเคยยอมรับและขอโทษอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์ดื่มแอลกอฮอล์ตอนยังไม่บรรลุนิติภาวะในปี 2020 โดยเรียกมันว่า ‘ความผิดพลาดที่ขาดความยั้งคิด’ ผู้โพสต์จบข้อความด้วยการระบุว่า พวกเขาไม่ต้องการคำขอโทษหรือค่าชดเชยใด ๆ แต่หวังให้นักแสดงหญิงรายนี้ ยุติบทบาทในวงการอย่างถาวร เพื่อไม่ให้มีคนได้รับผลกระทบอีก   ที่มา Popcornfor2 รูป MYSTIC STORY (MYSTIC ACTORS)

นักแสดงหนุ่ม พัคโบกอม (Park Bo Gum) ผู้ได้รับคำชมจากบทบาทชายอบอุ่น “ยังกวานชิก” ในซีรีส์ When Life Gives You Tangerines เป็นที่รู้กันดีว่าเขาในชีวิตจริงก็อ่อนโยนไม่ต่างจากตัวละคร มีเรื่องราวมากมายจากทีมงานและเพื่อนนักแสดงที่พูดถึงความมีน้ำใจของเขา ล่าสุด พัคโบกอม ก็ได้เผยอีกด้านหนึ่งของตัวเองว่าเป็นคนโรแมนติกเช่นเดียวกับในละคร เมื่อเขาทำให้ทุกคนเซอร์ไพรส์ด้วยการสารภาพความรู้สึกต่อคนดังหญิงคนหนึ่ง…ต่อหน้าต่อตาเธอเลยด้วย! เขาเล่าเรื่องนี้ในรายการ The Seasons: Cantabile of Park Bo Gum ซึ่งเขาเป็นพิธีกร โดยในตอนล่าสุดนั้น แขกรับเชิญคือสมาชิกวง i-dle (ชื่อเดิม (G)I-DLE) ซึ่งมาโปรโมตการคัมแบคครั้งแรกหลังต่อสัญญากับต้นสังกัด ในระหว่างรายการ พัคโบกอม ก็ทำให้ทุกคนตกใจเมื่อเขาพูดกับ มินนี่ (Minnie) สมาชิกชาวไทยของวงว่า “ผมตกหลุมรักเสียงของคุณเมื่อสองปีก่อน” เขาหมายถึงช่วงที่ทั้งสองได้ขึ้นเวทีพิเศษร่วมกันในงาน Music Bank ที่ประเทศเม็กซิโกในปี 2023 ซึ่งมีคนดังหลายคนเข้าร่วม เขาเล่าย้อนถึงช่วงเวลานั้นด้วยความประทับใจ และบอกว่าเขายังคงนึกถึงความรู้สึกที่โดนเสียงของ มินนี่ สะกดใจอยู่จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าเขาจะชื่นชมเฉพาะในด้านเสียงร้องของเธอ แต่แฟน ๆ หลายคนกลับตีความผิดไปว่าเป็นการ ‘สารภาพรัก’ กับ Minnie แบบโรแมนติก ความเข้าใจผิดนี้เริ่มต้นจากสื่อเกาหลีแห่งหนึ่งที่เขียนพาดหัวว่า “พระเอก Good Boy (ผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของ พัคโบกอม) เผยว่าเขาตกหลุมรัก มินนี่” ซึ่งสร้างกระแสฮือฮาบนโซเชียลมีเดีย แฟน ๆ ตกใจและแสดงความคิดเห็นว่า “ผู้ชายคนนี้บ้าจริง” “ไม่คิดว่าจะเห็นข่าวนี้ในปี 2025” “รสนิยมดีสุดๆ” อย่างไรก็ตาม แฟนคนหนึ่งที่แชร์บทความนั้นและเป็นจุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิด ก็ได้ออกมาขอโทษและชี้แจงในภายหลังว่า ที่จริงแล้ว พัคโบกอม หมายถึงว่าเขาชื่นชมใน พรสวรรค์ด้านการร้องเพลงของ มินนี่ เท่านั้น ไม่ได้เป็นการสารภาพรักแบบโรแมนติกแต่อย่างใด   ที่มา Popcornfor2 รูป KBS

ค่ำคืนแห่งชัยชนะของ ซนฮึงมิน กัปตันทีม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจ เมื่อ พัคซอจุน พระเอกซูเปอร์สตาร์แห่งเกาหลีใต้วัย 36 ปี เดินทางข้ามประเทศไปให้กำลังใจถึงขอบสนาม พร้อมฉลองแชมป์ยูโรปา ลีก 2024/25 ซึ่งนับเป็นแชมป์แรกในรอบ 17 ปีของสโมสรด้วย วันที่ 21 พฤษภาคม 2025 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 คว้าแชมป์ยูฟา ยูโรปา ลีก ไปครองได้สำเร็จ ถือเป็นแชมป์ระดับยุโรปครั้งแรกของสโมสรในรอบเกือบสองทศวรรษ ท่ามกลางเสียงเฮสนั่นสนามที่ประเทศสเปน โมเมนต์พิเศษก็เกิดขึ้นเมื่อแข้งวัยย่าง 33ปี กอดคอ พัคซอจุน กระโดดดีใจไปด้วยกันอย่างสนิทสนม สะท้อนถึงมิตรภาพแท้ที่เหนียวแน่นแม้ต่างวงการ หนึ่งในภาพที่ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกโซเชียล คือภาพของ พัคซอจุน ที่ปรากฏอยู่เคียงข้าง ซนฮึงมิน ในโพสต์ฉลองชัยบนอินสตาแกรม @hm_son7 ซึ่งเต็มไปด้วยคำแสดงความยินดีจากแฟนคลับทั่วโลก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเป็นที่รู้จักในปี 2019 เมื่อ พัคซอจุน ปรากฏตัวในสารคดีพิเศษ "Sonsational" ทางช่อง tvN ซึ่งติดตามชีวิตของ ซนฮึงมิน ในอังกฤษ ขณะนั้น พัคซอจุน อยู่ในยุโรปเพื่อทำงาน ก่อนจะไปร่วมชมการแข่งขันของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในฐานะ "เพื่อนสนิทของซน" ไม่เพียงแค่เชียร์ถึงขอบสนาม ทั้งสองยังรับประทานอาหารด้วยกันหลังเกม และมีบทสัมภาษณ์ที่อบอุ่นใจ โดย ซนฮึงมิน กล่าวว่า "พี่ซอจุนเป็นคนที่ผมพึ่งพาได้เสมอ เขาอยู่ข้างผมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และผมก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเขาจริงๆครับ" ด้าน พัคซอจุน เองก็เผยว่า เขาบันทึกชื่อ ซน ในโทรศัพท์ว่า "Sonshine" (ผสมคำระหว่าง Sunshine กับ Son) "ทุกครั้งที่ฮึงมินชนะ หรือมีข่าวดีเกี่ยวกับเขา วันของผมจะสดใสขึ้นทันที เขาเป็นเหมือนแสงแดดยามเช้าที่ให้พลังบวกครับ" แม้ทั้งสองจะเป็นดาวเด่นในสายอาชีพที่แตกต่าง คนหนึ่งคือนักแสดงแถวหน้า อีกคนคือซูเปอร์สตาร์ลูกหนังระดับโลก แต่มิตรภาพของพวกเขากลับเหนียวแน่น ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ค่ำคืนแห่งชัยชนะของ ซนฮึงมิน จึงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของแชมป์ แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงพลังของความสัมพันธ์ที่แท้จริง ที่แม้ผ่านปีผ่านงาน ผ่านความสำเร็จมากเพียงใด ก็ยังมีเพื่อนคนหนึ่งอยู่เคียงข้างเสมอ   ที่มา Sanook รูป Son HeungMin Instagram