โจโบอา (Jo Bo Ah) ออกมาคอนเฟิร์มว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรก สำนักข่าว My Daily รายงานเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนว่า นักแสดงสาวกำลังตั้งครรภ์ และคาดว่าจะคลอดบุตรช่วงปลายฤดูหนาวปีหน้า ข่าวอันน่ายินดีนี้เกิดขึ้นหลังจากเธอแต่งงานได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น โจโบอาเข้าพิธีวิวาห์แบบส่วนตัวกับสามีที่ไม่ใช่คนในวงการที่โรงแรมแห่งหนึ่งในโซลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมปีที่แล้ว แหล่งข่าวในวงการระบุว่า เธอผ่านช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย และตอนนี้อยู่ในช่วงไตรมาสที่สองที่อุ่นใจได้แล้ว โดยขณะนี้เธอกำลังให้ความสำคัญกับสุขภาพและการดูแลครรภ์ พร้อมทั้งเฉลิมฉลองความสุขของชีวิตใหม่ที่กำลังจะมาถึง เธอได้บอกข่าวนี้แก่คนใกล้ชิดและครอบครัว ซึ่งต่างก็ส่งคำแสดงความยินดีให้เธออย่างล้นหลาม โจโบอาเดบิวต์ในปี 2011 จากซิทคอมของ JTBC เรื่อง Living Among the Rich หลังจากนั้นเธอได้สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องในซีรีส์ Shut Up & Let’s Go, The King’s Doctor, All About My Mom, Temperature of Love, Tale of the Nine-Tailed, Military Prosecutor Doberman และ Dear Hongrang เธอได้ถ่ายทำซีรีส์ Knock Off ของ Disney ระหว่างที่ตั้งครรภ์ แม้ว่าการออกอากาศจะถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคิมซูฮยอน (Kim Soo Hyun) นักแสดงนำชายของเรื่อง โดยรายงานระบุว่าเธอถ่ายทำไปแล้วกว่า 90% ก่อนตัดสินใจพักงาน แม้ก่อนหน้านี้เธอจะเลื่อนการฮันนีมูนเพื่อทุ่มเวลาให้การถ่ายทำ แต่ตอนนี้เธอกำลังพักผ่อนและรอคอยการออกอากาศของซีรีส์   ที่มา popcornfor2 รูป Yonhap News

พิธีมอบรางวัล Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 46 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ณ KBS Hall เขตยออีโด กรุงโซล โดยปีนี้สร้างโมเมนต์ประวัติศาสตร์สุดหวาน เมื่อ ฮยอนบิน และ ซนเยจิน สามีภรรยาคนดัง คว้ารางวัล นักแสดงนำชายและนักแสดงนำหญิง ไปครองพร้อมกัน เป็นครั้งแรกที่มี “คู่สามีภรรยา” ได้รับรางวัลหลักพร้อมกันบนเวทีนี้ ฮยอนบินได้รับรางวัลนักแสดงนำชายจากภาพยนตร์เรื่อง “Harbin” ซนเยจินได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงจากผลงาน “No Other Choice” เมื่อประกาศผลรางวัล ฮยอนบินที่นั่งข้างภรรยา ได้โอบกอดอย่างอบอุ่นก่อนลุกขึ้นขึ้นเวที สร้างเสียงฮือฮาทั้งงาน คำพูดจากฮยอนบิน “ขอบคุณมากครับ ช่วงเวลาที่ถ่าย Harbin ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งที่มากกว่าแค่การแสดง ผมสามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะเหล่าผู้ที่เสียสละเพื่อปกป้องประเทศนี้… ตอนแรกผมไม่มั่นใจว่าจะรับบท ‘อันจุงกึน’ ได้หรือไม่ แม้จะอยากทำ แต่รู้สึกถึงความหนักหน่วงและความเจ็บปวดของบุคคลในประวัติศาสตร์นี้… แต่เพราะผู้กำกับที่เชื่อมั่นในตัวผมอย่างที่สุด ผมจึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้ ขอบคุณนักแสดงและทีมงานทุกคน” และช่วงที่ทั้งงาน “ใจละลาย” ไปด้วยความหวาน… “ขอบคุณครอบครัวที่อยู่ข้างหลังผมอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะภรรยา เยจิน ที่เป็นพลังให้ผมเสมอ… และลูกชายของเรา ผมรักคุณมากครับ” ซนเยจิน น้ำตาคลอเมื่อขึ้นรับรางวัล “ฉันไม่คิดว่าจะได้รางวัล เลยไม่ได้เตรียมคำพูดไว้เลยค่ะ ตอนอายุ 27 ฉันเคยได้รางวัลนี้ครั้งแรก และพูดไว้ว่า ‘การเป็นนักแสดงหญิงวัย 27 นั้นยาก การได้รับรางวัลนี้ทำให้ฉันมีแรงใจ’ วันนี้ฉันได้ทำตามความฝันอีกครั้ง” เธอกล่าวต่อด้วยความซาบซึ้งว่า “ฉันกลับมาเล่นหนังในรอบ 7 ปี ทั้งตื่นเต้นและกังวล หลังแต่งงานและได้เป็นแม่ ฉันรู้สึกว่าวิธีมองโลกเปลี่ยนไป อยากเป็นผู้ใหญ่ที่ดีจริง ๆ… ฉันขอแบ่งปันความสุขของรางวัลนี้กับผู้ชายสองคนที่ฉันรักที่สุด คุณคิมแทพยอง (ฮยอนบิน) และลูกชายของเรา” คู่รักฮยอนบินและซนเยจินยังคว้ารางวัล “Popular Star Award” ด้วยกันอีกด้วย! เรียกได้ว่าทั้งเป็นคู่ชีวิต และคู่แห่งความสำเร็จบนเส้นทางการแสดงตัวจริง นี่คือโมเมนต์ประวัติศาสตร์ของวงการหนังเกาหลี และหนึ่งในช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดบนเวที Blue Dragon   ที่มา popcornfor2 รูป The Sports Chosun

นักแสดง พัคโซอี (Park So Yi) ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมกับ VAST Entertainment ต้นสังกัดของฮยอนบิน ประกาศเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะนักแสดง เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ทาง VAST Entertainment กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับพัคโซอี นักแสดงที่มีฝีมือการแสดงยอดเยี่ยมและศักยภาพที่กว้างไกล เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา เราจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้พัคโซอีสามารถเปล่งประกายในผลงานหลากหลายต่อไป” พัคโซอีเปิดตัวในปี 2018 ผ่านซีรีส์ OCN เรื่อง “Mistress” ก่อนจะสร้างความประทับใจอย่างแรงกล้าในภาพยนตร์ “Deliver Us from Evil ” ด้วยการสื่ออารมณ์ของตัวละครผ่านสายตาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อมาเธอกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากภาพยนตร์ “Pawn” ซึ่งเธอคว้าบท “ซึงอี” มาได้จากการแข่งขันออดิชันกว่า 300 ต่อ 1 และได้รับคำชมจากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์ในฐานะนักแสดงเด็กที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างจริงใจและทรงพลัง ล่าสุด พัคโซอีได้รับบท “บกอินนา” ลูกสาวของพระเอกในซีรีส์ JTBC “The Atypical Family (히어로는 아닙니다만)” โดยเธอถ่ายทอดอารมณ์ซับซ้อนได้อย่างละเอียดอ่อนจนได้รับคำชื่นชมว่า “เป็นนักแสดงที่ไม่ได้แค่แสดงด้วยเทคนิค แต่เข้าใจตัวละครจากหัวใจอย่างแท้จริง” ในปี 2024 เธอยังคว้ารางวัล “นักแสดงเยาวชนยอดเยี่ยม” จากงาน SeoulCon APAN Star Awards ยืนยันทั้งความนิยมและฝีมือการแสดงที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทาง VAST Entertainment กล่าวเพิ่มเติมว่า “พัคโซอีเป็นนักแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราเชื่อว่าเธอจะสามารถแสดงบทบาทที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านผลงานหลากหลายแนวในอนาคต ขอให้แฟน ๆ ร่วมติดตามการเติบโตของเธอด้วยนะครับ” ทั้งนี้ VAST Entertainment เป็นต้นสังกัดของนักแสดงชื่อดังมากมาย เช่น ฮยอนบิน, จางกึนซอก, ฮวังอูซึลฮเย, รยูฮเยยอง, และ ชินโดยอน โดยการเข้าร่วมของพัคโซอีคาดว่าจะสร้างพลังซินเนอร์จี้ใหม่ให้กับค่ายได้อย่างน่าจับตามอง   ที่มา popcornfor2 รูป VAST Entertainment

นักแสดงผู้ล่วงลับ ซงแจริม — “เริ่มต้นการเดินทางอันยาวไกล” โพสต์สุดท้ายใน SNS… คลื่นแห่งการรำลึกยังคงดำเนินต่อเป็นปีที่ 1 ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อปีที่แล้ว วันที่ 12 พฤศจิกายน 2024 เวลาประมาณ 12.30 น. ซงแจริมถูกพบว่าเสียชีวิตภายในบ้านพักของเขาในเขตซองดง กรุงโซล เพื่อนของเขาที่นัดหมายพบกันในวันนั้นได้ไปที่บ้านและเป็นผู้พบร่างของซงแจริมก่อนจะแจ้งตำรวจ ตำรวจเปิดเผยในขณะนั้นว่า “จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบหลักฐานการฆาตกรรมหรือการกระทำผิดอื่น ๆ” และ “จากการที่พบจดหมายลาตายในที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่าเจ้าตัวได้ตัดสินใจจบชีวิตด้วยตนเอง” บนโซเชียลมีเดีย ของซงแจริมยังคงเหลือข้อความสุดท้ายที่เขาเขียนไว้ว่า “เริ่มต้นการเดินทางอันยาวไกล” ซึ่งยิ่งสร้างความเศร้าเสียใจให้กับแฟน ๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อนนักแสดงหลายคนในวงการบันเทิงได้ออกมาไว้อาลัยต่อการจากไปของเขา ฮงซอกชอน ได้โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับผู้ล่วงลับพร้อมข้อความว่า “เสียใจที่ไม่อาจได้เห็นรอยยิ้มอันงดงามของนายอีกแล้ว เสียใจที่ดูแลนายไม่ดีพอ ต้องส่งนายไปโดยไม่ได้แม้แต่จะกล่าวลา ขอโทษจริง ๆ พี่ชายคนนี้ทำหน้าที่พี่ได้แย่มาก… หลับให้สบายเถอะนะ” นักแสดงพัคโฮซาน ก็กล่าวด้วยความเศร้าว่า “บ้าจริงเลย แจริมอา… นายเป็นคนสดใสขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ขอโทษนะ ที่ไม่ได้ติดต่อหรือดูแลนายให้ดีกว่านี้ ขอโทษจริง ๆ” อดีตผู้บริหารต้นสังกัดของซงแจริมก็ได้กล่าวไว้อาลัยว่า “เขาเป็นคนจิตใจงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ คนที่ใจดีและอ่อนโยนเหมือนดอกไม้ที่ทิ้งกลิ่นหอมไว้ทุกที่ที่เขาไป ขอให้เขาได้พักผ่อนอย่างสงบในสวนดอกไม้ที่อบอุ่นและอ่อนโยนนั้นด้วยครับ” ซงแจริม เกิดปี 1985 เปิดตัวในปี 2009 ผ่านภาพยนตร์ “Actresses (여배우들)” จากนั้นฝากผลงานไว้ในซีรีส์ดังมากมาย เช่น “The Moon Embracing the Sun,” “Two Weeks,” “Inspiring Generation,” “Unkind Women,” “Goodbye Mr. Black,” “Our Gapsoon,” “Secret Mother,” “Clean with Passion for Now,” และ “I Wanna Hear Your Song” ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมของเขา ในวงการภาพยนตร์ เขายังปรากฏตัวในผลงานอย่าง “The Suspect,” “Tunnel 3D,” “The Faceless Boss,” “Yaksha,” “Hello,” และ “The Bait (미끼)” อีกด้วย ก่อนการเสียชีวิตเพียงหนึ่งเดือน ซงแจริมยังได้ขึ้นแสดงบนเวทีละครเวทีเรื่อง “The Rose of Versailles” ต่อมาในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง “Crash (폭락)” ที่เขาร่วมแสดงได้ออกฉาย และกลายเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขา ซึ่งสร้างความเศร้าและอาลัยอย่างยิ่งให้แก่แฟน ๆ และเพื่อนร่วมวงการ   ที่มา popcornfor2 รูป SARAM ENTERTAINMENT

ผู้เชี่ยวชาญในวงการบันเทิงจำนวน 110 คนได้ลงคะแนนเสียงเพื่อเลือก “คู่พระนางแห่งปี” ซึ่งตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ตกเป็นของ ไอยู (IU) และ พัคโบกอม (Park Bo Gum) จากซีรีส์เยียวยาหัวใจของ Netflix เรื่อง When Life Gives You Tangerines โดยซีรีส์เรื่องนี้ยังคว้ารางวัล “ซีรีส์แห่งปี” จากโพลเดียวกันด้วย และนี่คือรายชื่อคู่พระนางที่โดดเด่นที่สุดของปี 2025

โจจองซอก (Jo Jung Suk) เผยเบื้องหลัง Hospital Playlist ต้องถ่ายซ้ำเพราะคิมแดมยองดูสูงวัยเพิ่มขึ้น เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ช่องยูทูบ “Cheonggyesan Daengi Records” ได้เผยแพร่วิดีโอใหม่ซึ่งมีนักแสดง โจจองซอก, จีชางอุก และ โดคยองซู (D.O. วง EXO) มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับผลงานล่าสุดและประสบการณ์ในการถ่ายทำ ระหว่างที่จีชางอุกและโดคยองซูกำลังพูดถึงซีรีส์เรื่อง “The Manipulated” ทาง Disney+ โดคยองซูได้เล่าถึงความท้าทายของการรับบทตัวร้ายครั้งแรกของเขา โดยกล่าวว่า “ผมพยายามควบคุมน้ำหนัก แต่พอมาดูตอนพากย์เสียง ผมเห็นว่าผมดูผอมในบางช็อต แต่หน้ากลับอิ่มขึ้นในอีกช็อต ทั้งที่เป็นฉากเดียวกันเลย!” เขากล่าวพร้อมหัวเราะ คำพูดนี้ทำให้โจจองซอกนึกถึงเหตุการณ์คล้ายกันในซีรีส์ “Hospital Playlist” เขาเล่าว่า “ตอนจบของซีซัน 1 มีฉากที่ต่อเนื่องกับตอนต้นของซีซัน 2 แต่คิมแดมยอง (หมอหมี) ดูแก่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนต้องถ่ายฉากนั้นใหม่หมดเลย!” เรื่องนี้สร้างเสียงหัวเราะในรายการ พร้อมสะท้อนถึงความท้าทายเล็ก ๆ แต่จริงจังในการรักษาความต่อเนื่องของภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่มีหลายซีซัน ระหว่างการพูดคุย โดคยองซูยังถูกถามว่าช่วงนี้เขาหลงใหลอะไรเป็นพิเศษ เขาตอบว่า “พอได้ขึ้นแสดงบ่อยขึ้น ผมรู้สึกว่าการร้องเพลงของผมเริ่มสบายขึ้น มันเป็นพัฒนาการเล็ก ๆ แต่ผมรู้สึกได้” เขายังเสริมว่า หากไม่ได้เป็นนักร้องหรือนักแสดง เขาอาจจะเลือกเป็นเชฟหรือช่างทำผม “แม่ของผมเป็นช่างทำผม ผมเลยคิดว่ามันดูน่าสนใจมาตลอด” การสนทนาแบบสบาย ๆ ของสามนักแสดงครั้งนี้ ทำให้แฟน ๆ ได้เห็นมุมจริงของการทำงานในวงการบันเทิง ทั้งเรื่องการถ่ายทำ การเปลี่ยนแปลงตามวัย และเส้นทางอาชีพที่เติบโตขึ้นของดาราชั้นนำอย่าง โจจองซอก และ โดคยองซู   ที่มา Popcornfor2 รูป Cheonggyesan Daengi Records