นักแสดงสาว อีมินจอง (Lee Min Jung) เปิดเผยว่าเธอกับสามี อีบยองฮอน (Lee Byung Hun) นับถือศาสนาต่างกัน แต่ไม่มีความขัดแย้งทางศาสนาเกิดขึ้น แล้วเหตุผลคืออะไร? ในVlog ที่เผยแพร่บนช่อง Youtube ‘Lee Min Jung MJ’ เมื่อวันที่ 12 อีมินจอง ได้ถ่ายทอดชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การเตรียมอาหารเช้า เลี้ยงดูลูก ไปจนถึงการออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ในวันนั้น ทั้งคู่พร้อมด้วยลูกชาย จุนฮู ได้ชมภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง The King of Kings ซึ่งอีบยองฮอน พากย์เสียงเป็นพระเยซู ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานแนวคริสเตียนที่เล่าเรื่องราวชีวิตของพระเยซู หลังการชมภาพยนตร์ อีมินจอง กล่าวว่า “ครอบครัวของเราเป็นคริสเตียน แต่สามีของฉันไม่ใช่ ตอนที่อีบยองฮอนบอกว่าจะทำหนังเรื่องนี้ คุณแม่ของฉันดีใจมาก” โดยเป็นที่รู้กันว่าอีบยองฮอน นับถือศาสนาพุทธ ระหว่างที่อีมินจอง ถึงกับน้ำตาคลอในฉากซึ้ง ๆ อีบยองฮอน กลับเอียงคอแล้วพูดว่า “ผมไม่เข้าใจ” สะท้อนให้เห็นความแตกต่างในมุมมอง ขณะที่อีมินจอง กล่าวเสริมว่า “มันมีหลายช่วงที่ทำให้ฉันร้องไห้” อีมินจอง ยังบอกอีกว่า “เราดำเนินชีวิตด้วยการเคารพในศาสนาของกันและกัน” ซึ่งความเคารพนี้เองที่ทำให้ไม่มีความขัดแย้ง แม้จะมีความเชื่อต่างกัน ผู้กำกับจางซองโฮ (Jang Sung Ho) แห่ง The King of Kings อธิบายเหตุผลที่เลือกอีบยองฮอน (Lee Byung Hun) มาพากย์เสียงว่า “แม้จะเป็นภาพยนตร์คริสเตียน แต่ผมต้องการนักแสดงที่แข็งแกร่งและดึงดูดความสนใจจากสาธารณชนได้ ผมเชื่อว่าตราบใดที่เขาสามารถเข้าใจสารของเรื่องได้ การที่เขาเป็นชาวพุทธก็ไม่ใช่ปัญหา” ในเวลานั้น อีบยองฮอน ยังได้กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ผมเลือกเพราะมันเป็นผลงานที่สามารถดูร่วมกับลูกได้”   ที่มา popcornfor2 รูป Lee Min Jung MJ

เพียงไม่กี่วันก่อนเริ่มถ่ายทำ ภาพยนตร์ Turtle (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ก็ต้องเผชิญคลื่นลมแรง เมื่อ แชจงฮยอบ (Chae Jong Hyeop) ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการถึงผู้สร้าง Popcorn Film จุดชนวนสู่ความขัดแย้งทางกฎหมาย แหล่งข่าวในวงการยืนยันเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมว่า แชจงฮยอบ ได้ส่งจดหมายถึง Popcorn Fil) โดยให้เหตุผลว่า “ไม่เริ่มถ่ายทำภายในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้” พร้อมระบุในจดหมายว่า “เราได้ร้องขอให้เริ่มถ่ายทำซ้ำหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใด ๆ” Popcorn Film ซึ่งมีสำนักงานกฎหมาย Bae, Kim & Lee เป็นตัวแทน ได้โต้แย้งข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่า “กำหนดการถ่ายทำเดือนพฤษภาคม–กรกฎาคมในสัญญาเป็นเพียงแผนเบื้องต้นเท่านั้น วันเริ่มและสิ้นสุดการถ่ายทำที่ชัดเจนจะถูกกำหนดตามสภาพการผลิต และสามารถเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็นผ่านการตกลงร่วมกัน” บริษัทกล่าวยืนยันว่า แชจงฮยอบ ได้ตกลงกับกำหนดการใหม่แล้ว มีส่วนร่วมในการซ้อมและทำงานบทภาพยนตร์ และเพิ่งหยุดให้ความร่วมมือไม่นานมานี้ “เราได้เข้าสู่ขั้นตอนการฝึกการแสดงและลองชุดแล้ว”  Popcorn Film กล่าว “ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม เขาได้ปฏิเสธการเข้าร่วมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้ไม่สามารถเริ่มถ่ายทำครั้งแรกได้” ขณะที่ต้นสังกัดใหม่ของแชจงฮยอบ อย่าง Blitzway ยืนยันว่า ไม่มีการตกลงกันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเลื่อนถ่ายทำ “สัญญาระบุชัดเจนถึงช่วงเวลาการถ่ายทำ” ต้นสังกัดกล่าว “ช่วงเวลาดังกล่าวหมดลงเพราะปัญหาของทางบริษัทผู้ผลิต เราเสนอให้ถ่ายทำหลังจบตารางงานละครของแชจงฮยอบ แต่ไม่มีการตกลงกันได้ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากส่งหนังสือยกเลิกสัญญา” ทั้งสองฝ่ายต่างระบุว่าหวังให้เรื่องจบลงด้วยดี แต่ก็แสดงท่าทีพร้อมขึ้นศาลหากการเจรจาล้มเหลว โดย Popcorn Film เตือนว่า “หากการผลิตถูกยกเลิกหรือล่าช้าเพราะการปฏิเสธของนักแสดง เขาจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น” ขณะที่ Blitzway ตอบว่า แม้ยัง “เปิดกว้างต่อการเจรจา” แต่ก็พร้อมดำเนินการ “ใช้ทุกช่องทางทางกฎหมาย” หากจำเป็น แชจงฮยอบ ซึ่งมีผลงาน Hot Stove League, Castaway Diva และซีรีส์ญี่ปุ่นยอดฮิต Eye Love You เดิมมีกำหนดรับบทนำใน Turtle ส่วนเขาจะยังร่วมโครงการต่อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดจะชนะในดราม่านอกจอนี้   ที่มา popcornfor2 รูป Blitzway Entertainment

นักแสดงจีจินฮีเผยครั้งหนึ่งเขาถึงกับตะลึงในความงามของซงฮเยคโยและจอนจีฮยอนก่อนที่ตัวเองจะเข้าสู่วงการบันเทิง ในตอนต่อไปของรายการ Whenever Possible ทางช่อง SBS นักแสดงจีจินฮีและพิธีกรจีซอกจินจะมาร่วมเป็น “เพื่อนต่างวัย” (gap friends) เติมเต็มบรรยากาศย่านอาเฮยอนดงด้วยการพูดคุยออกรส ในตอนที่อัดเทปไว้ล่วงหน้า จีจินฮีสารภาพว่าเคยรู้สึกประหม่าเมื่อเจอดาราในอดีต สมัยก่อนจะเดบิวต์ เขาเคยทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพ และเล่าว่า “ผมเคยเห็นซงฮเยคโยตอนเธอเรียนมัธยมต้น และเห็นจอนจีฮยอนตอนเธอทำงานเป็นนางแบบ พวกเธอสวยมากจนผมสงสัยว่า ‘นี่คนหรือนางฟ้า? การเป็นดารามันไม่ใช่เรื่องที่ใครนึกอยากจะเป็นก็เป็นได้’” เป็นการยืนยันถึงออร่าที่โดดเด่นของซูเปอร์สตาร์ทั้งคู่ ในตอนนั้น จีซอกจินหันไปมองยูแจซอกแล้วแซวว่า “แล้วคุณได้มาเป็นดาราได้ยังไง?” ยูแจซอกก็ตอบแบบเท่ ๆ ว่า “ก็เพราะพี่ไง” ทำให้กองถ่ายหัวเราะกันลั่น ขณะเดียวกัน จีจินฮีที่ได้รับแรงหนุนของยูแจซอก, ยูยอนซอก และจีซอกจิน ก็เข้าสู่โหมด “คนช่างพูด” เขาบอกว่าสนใจในเรื่องการปีนเขาเป็นพิเศษ จีจินฮีกล่าวว่า “การปีนเขาเป็นงานอดิเรกของผม” แล้วก็เริ่มพูดถึงผลงานของนักปีนเขาระดับตำนาน ทำให้ยูแจซอกและยูยอนซอกถึงกับงงไปพักหนึ่ง กระทั่งเมื่อเขาเริ่มบรรยายลงลึกรายละเอียดเกี่ยวกับการปีนเขา ยูแจซอกถึงกับอุทานว่า “ปากพี่นี่ติดมอเตอร์หรือไง” ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และสุดท้ายจีจินฮียังไม่หยุดพูด แต่ลงมือสาธิตการปีนให้ดูจริง ๆ ทำเอาทุกคนทึ่งไปตาม ๆ กัน จีจินฮีพ่อคนช่างพูด จะสามารถทำให้วันของเขาราบรื่นเหมือนฝีปากของเขาได้หรือไม่? แฟน ๆ ต่างตั้งตารอชม Whenever Possible ซึ่งจะออกอากาศวันที่ 12 เวลา 21.00 น.   ที่มา popcornfor2 รูป SBS

นักแสดงสาว คิมโซฮยอน โพสลงโซเชียลมีเดียของเธอเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 17 ปีในเส้นทางการแสดงของเธอ ด้วยข้อความสั้น ๆ และอบอุ่น เธอได้ขอบคุณแฟน ๆ สำหรับคำอวยพรในโอกาสครบรอบ 17 ปี พร้อมส่งคำอวยพรกลับ ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข คิมโซฮยอนเริ่มแสดงตั้งแต่อายุเพียง 7 ปี และเดบิวต์อย่างเป็นทางการผ่านซีรีส์ย้อนยุค Hometown Legends ในปี 2008 ในวัยเด็ก เธอโด่งดังอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าสวยราวตุ๊กตาและฝีมือการแสดงที่น่าประทับใจ จนได้รับฉายาว่า “น้องสาวแห่งชาติ” และ “รักแรกแห่งชาติ” และจากการแสดงในซีรีส์ย้อนยุค หลายเรื่องที่ได้รับคำชม เธอยังได้รับการยอมรับว่าเป็นนักแสดงที่เชี่ยวชาญด้านการแสดงในซีรีส์ย้อนยุค เธอเป็นที่รู้จักจากผลงานอย่าง Moon Embracing the Sun, Who Are You: School 2015, Pure Love และ River Where the Moon Rises โดยมีเส้นทางอาชีพที่ต่อเนื่องและได้รับความนิยมอย่างสม่ำเสมอ เสริมด้วยความสามารถรอบด้านและภาพลักษณ์ที่สะอาดใส ล่าสุด เธอรับบทนำในซีรีส์แอ็กชัน-คอเมดี้ฮิตแห่งปี 2025 เรื่อง Good Boy แสดงคู่กับ พัคโบกอม โดยรับบทเป็นนักกีฬาทีมชาติที่กลายมาเป็นตำรวจ และต้องต่อสู้กับโลกที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรมและการเล่นไม่ซื่อ   ที่มา popcornfor2 รูป คิมโซฮยอน Instagram

นักแสดงยุนคยองโฮได้เปิดเผยเรื่องราวครอบครัวที่เจ็บปวดเป็นครั้งแรกในรายการวาไรตี้ ‘You Quiz on the Block’ ของ tvN ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม มีนักแสดงยุนคยองโฮมาร่วมเป็นแขกรับเชิญ ในวันนั้น ยุนคยองโฮได้เอ่ยปากอย่างระมัดระวังว่า “จริงๆ แล้วผมไม่เคยเล่าเรื่องนี้อย่างจริงจังที่ไหนมาก่อน แต่เนื่องจากที่นี่คือที่ที่ผมอาจจะไม่ได้มาอีกครั้ง ผมจึงอยากจะเล่าให้ฟัง” เขากล่าวว่า “แม่ของผมพึ่งพาผมมาก เราสองคนใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนกัน” และ “เมื่อมองย้อนกลับไป ผมคิดว่าแม่น่าจะเป็นเพื่อนคนเดียวของผม แต่เมื่อผมเข้าสู่วัยรุ่น ผมเริ่มเข้าสังคมกับเพื่อนคนอื่นๆ มากขึ้น ในช่วงหนึ่งแม่กลายเป็นคนที่ผมรู้สึกรำคาญ” เขากล่าวต่อไปว่า “แม่มักจะรอฟังเรื่องราวของผมอยู่เสมอ ซึ่งบางครั้งผมก็รู้สึกเป็นภาระมาก และผมก็อยากไปเล่นกับเพื่อนๆ มากกว่า เขาบอกว่าเมื่อเด็กๆ เข้าสู่วัยรุ่น พ่อแม่ก็จะมีความเหงาอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า ‘วัยรุ่นของพ่อแม่’ วันหนึ่งแม่บอกกับผมว่า ‘ดูเหมือนแม่จะมีเด็กวัยรุ่นในบ้านแล้วนะ แม่อยากคุยกับลูกมากกว่านี้’ แต่ปรากฏว่าท่านป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอย่างหนัก” ยุนคยองโฮเผยว่า “ท่านต้านทานโรคซึมเศร้าไม่ไหว และในที่สุดก็ยุติชีวิตตัวเองลง” โดยหลั่งน้ำตาออกมา นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า “ความจริงแล้วคงมีคนที่มีความเจ็บปวดแบบนี้อยู่หลายคนใช่ไหมครับ ตอนนั้นยายบอกกับผมว่า ‘ถ้าเอาเรื่องที่แม่จากไปแบบนั้นไปเล่าให้ใครฟัง คนอื่นอาจจะมองหลานในแง่ลบ ให้บอกว่าแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจะดีกว่า’ เพราะอย่างนั้นผมจึงไม่เคยสามารถเล่าให้ใครฟังได้เลยว่าแม่จากไปอย่างไร” เขากล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเรื่องดีๆ หรือโอกาสดีๆ เกิดขึ้น สิ่งที่คิดถึงมากที่สุดคือแม่” และ “แม้จะคุยกับคนอื่นๆ คุยกับภรรยา แต่หลังจากความสุขแล้วมักจะมีความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวตามมาเสมอ มันไม่เต็มเปี่ยม” เขาสารภาพถึงความรู้สึกเจ็บปวดในใจ และเขายังกล่าวเสริมว่า “ตอนนี้ก็ดีใจและภาคภูมิใจ แต่ไม่มีคนที่จะเล่าให้ฟัง จึงมีความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวอยู่เสมอ” ทำให้บรรยากาศในรายการเต็มไปด้วยความโศกเศร้า   ที่มา Popcornfor2 รูป tvN

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ตัวแทนจากต้นสังกัด BRANDNEW MUSIC ได้ยืนยันข่าวการเสียชีวิตของอีมิน พร้อมระบุว่า “เมื่อคืนที่ผ่านมา สามีของลีมินเป็นผู้พบเธอหลังกลับมาถึงบ้าน” ทางต้นสังกัดยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอความกรุณาอย่าคาดเดาหรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่มีหลักฐาน จนกว่าผลการสอบสวนจะออกมาอย่างเป็นทางการ” อีมินเปิดตัวในวงการบันเทิงเมื่อปี 1999 ในฐานะสมาชิกวงดูโอ As One ซึ่งมีผลงานเพลงฮิตมากมาย เช่น “Desire And Hope” และ “Day By Day” โดยเมื่อไม่นานมานี้ ในเดือนมิถุนายน As One เพิ่งปล่อยซิงเกิลใหม่ชื่อ “Happy Birthday To You” และได้ร่วมปรากฏตัวในรายการ “The Seasons: Cantabile of Park Bo Gum” ที่มีพัคโบกอมดำเนินรายการ สำหรับคริสตัล สมาชิกอีกคนของวง As One ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา กำลังเดินทางกลับมายังประเทศเกาหลีหลังทราบข่าวเศร้านี้ ทางทีมงาน popcornfor2 ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและแฟนๆของอีมินในช่วงเวลาอันแสนยากลำบากนี้ ขอให้เธอไปสู่สุขติ   ที่มา Popcornfor2 รูป BRANDNEW MUSIC