พิธีกร อันจองฮวาน (Ahn Jung Hwan) และ ฮงฮยอนฮี (Hong Hyun Hee) ได้ไปเยี่ยมบ้านของ จางกึนซอก (Jang Geun Suk) ในรายการ ‘Let’s Go’ ซีซั่น 4 ตอนที่ 11 ของช่อง MBN ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 20 เมษายน เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2024 จางกึนซอกเปิดเผยว่าเขาเป็นมะเร็งไทรอยด์ เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จางกึนซอกบอกว่า “ผมเริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น ผมพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพของตัวเอง และหยุดสูบบุหรี่ไปเอง ความเจ็บปวดที่ผมได้เจอทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น” เขาพูดต่อ “พูดตามตรง ผมมีความทะเยอทะยานส่วนตัว อาจจะฟังดูเย่อหยิ่งไปหน่อย แต่ผมอยากมีเงินเยอะขึ้น ผมได้รับความรักมากมายและอยากจะมอบมันกลับไปให้คนที่มอบให้กับผม ผมมีความฝันว่าอยากสร้างองค์กรการกุศล และตอนนี้ผมกำลังศึกษาเรื่องนี้” จางกึนซอกบอกว่าการเป็นโรคในครั้งนั้นเปลี่ยนแปลงมุมมองของเขา “ผมเคยบริจาคเงินประมาณ 1,200 ล้านวอน (ประมาณ 28 ล้านบาท) ให้กับ มหาวิทยาลัยฮันยาง ผมอยากจะช่วยเหลือนักศึกษา เพราะว่าผมเรียนจบจากที่นั่น ผมเลยไปรักษาตัวที่นั่นด้วย ผมเห็นชื่อของตัวเองอยู่ในรายชื่อผู้บริจาค และได้รับการผ่าตัดและรักษาที่ดีมาก ผมคิดได้ว่าสิ่งที่ดีๆที่คุณมอบให้ไปจะย้อนกลับมาหาคุณ รู้สึกมันเป็นกฎของจักรวาล มันทำให้ผมคิดเรื่องการให้แบบจริงจังขึ้น” “จากนี้ผมจะทำงานให้หนักขึ้นและหาเงินให้ได้มากขึ้น ผมจะได้มอบมันกลับไปให้กับผู้คนมากขึ้น ผมรู้ว่าบางคนอาจจะรู้สึกแปลกๆและคิดว่า ‘เขายังคงโลภหรือทำเป็นเท่’ แต่ผมไม่กลัวการถูกวิจารณ์ ผมจะทำในสิ่งที่ผมพูด”   ที่มา Popcornfor2 รูป MBN

บรรยากาศสีชมพูดกลับมาอีกครั้งในรายการ รันนิ่งแมน (Running Man) ตอนที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 20 เมษายน ระหว่างทำภารกิจ ซงจีฮโย (Song Ji Hyo) บอกว่า “ไปทำในสิ่งที่ฉันชอบก่อน” พอเธอเริ่มช้อปปิ้ง คิมจงกุก (Kim Jong Kook) ยิ้มและบอกว่า “ตอนนี้เธอเป็นซีอีโอ ดูเธอซิ ทุกอย่างเป็นธุรกิจไปหมด” และโมเม้นท์ที่ทำให้แฟนรันนิ่งแมนตื่นเต้น เมื่อ จีฮโย พูดว่า “ยอโบ…” ซึ่งในภาษาเกาหลีหมายถึง ที่รัก ก่อนจะรีบพูดเป็น “ยอบอเซโย” เป็นการบอกสวัสดีแทน แต่ไม่ทันแล้ว เพราะสมาชิกคนอื่นเริ่มแซวทันที ฮาฮา (Haha) และ ยังเซชาน (Yang Se Chan) บอกว่า “เดี๋ยว อะไรเนี่ย? เราปล่อยไปไม่ได้นะ อะไรยังไง ทำไมเป็นที่รักกันแล้ว” จีฮโยหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ช่วงพักเที่ยง จีซอกจิน (Jee Suk Jin) ถามว่า “จีฮโย ทำไมเรียกจงกุกว่า ยอโบ ละ?” ก่อนที่จีฮโยจะตอบ ฮาฮาชิงพูดก่อน “ฟังดูอบอุ่นนะ” ยังเซชานผสมโรง “เอาจริงๆ เหมือนเวลาคนที่แต่งงานกันมาแล้ว 30 ปีคุยกันเลย” ยูแจซอก (Yoo Jae Suk) ซึ่งสังเกตมาตลอดบอกว่า “เราไม่ค่อยได้สร้างเลิฟไลน์กันแล้วนะ แต่ว่ามันก็มีเรื่องน่าสงสัยเกิดขึ้นจนได้” คิมจงกุกหัวเราะและบอกว่า “ผมเป็นคนที่โดนเรียกแบบนั้น ผมยังอึ้งเลย ผมเกือบจะเรียก ยอโบ กลับไปแล้ว!”   ที่มา Popcornfor2 รูป SBS

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวละครเรื่องใหม่ ‘Heavenly Ever After’ ของช่อง JTBC ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ โดยมีผู้กำกับ คิมซอกยุน (Kim Seok Yoon) และนักแสดงนำอย่าง คิมฮเยจา (Kim Hye Ja) ซนซอกกู (Son Suk Ku) ฮันจีมิน (Han Ji Min) อีจองอึน (Lee Jung Eun) ชอนโฮจิน (Chun Ho Jin) และรยูด็อกฮวาน (Ryu Deok Hwan) เข้าร่วมงานเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ ‘Heavenly Ever After’ เป็นเรื่องราวหลังความตายของ อีแฮซุก (คิมฮเยจา) ผู้มาถึงสวรรค์ในร่างอายุ 80 ปีของเธอและได้กลับมาพบกับ โกนักจุน (ซนซอกกู) สามีของเธออีกครั้งที่นั่น โดยสามีของเธอยังคงอยู่ในร่างวัย 30 ปีของเขา ในละครเรื่องนี้ คิมฮเยจา และ ซนซอกกู รับบทเป็นสามีภรรยาที่เรื่องราวความรักของพวกเขานั้นเชื่อมโยงกับช่องว่างของอายุที่ห่างกันถึง 42 ปี ผู้กำกับคิมซอกยุน เล่าถึงการคัดเลือกนักแสดงให้มารับบทคู่นี้ว่า “หลังจากที่ทั้งสองตกลงรับบท เราก็ได้นัดพบกันครับ (คล้าย ๆ กับการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ) พวกเราสามคนนัดพบกันที่ร้านอาหาร และระหว่างทานอาหารด้วยกันมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นการนัดดูตัวยังไงยังงั้นเลยครับ หลังจากเห็นบรรยากาศในตอนนั้นแล้ว ผมก็คิดว่า ‘มันคงจะเวิร์ก’ แม้แต่ตอนซ้อม เคมีของพวกเขาก็ดูเป็นธรรมชาติมาก และความแตกต่างของอายุก็ไม่ปรากฏให้เห็นเลยครับ” เขากล่าวต่อว่า “บางครั้ง ซนซอกกู ก็แสดงความเคารพ คิมฮเยจา ออกมามากเกินไป ชัดเจนว่าเขาชื่นชมเธอมากในฐานะนักแสดงรุ่นพี่ แต่ผมหวังว่ามันจะไม่ขัดขวางการแสดงบทบาทสามีที่น่ารักของเขา เมื่อใดก็ตามที่สิ่งนั้นเกิดขึ้น เราก็จะพูดคุยกันและปรับเปลี่ยนกันไป ในที่สุดเขาก็ยอมรับบทบาทนี้และปรับตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ” ซนซอกกู ยังได้แบ่งปันความคิดของเขาโดยกล่าวว่า “ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ผมไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเธอเลยครับ ผมไม่เคยเล่นเป็นตัวละครที่แต่งงานแล้วมาก่อน ดังนั้นผมจึงรู้สึกกดดันเล็กน้อย แต่การมี คิมฮเยจา เล่นเป็นตัวละครคู่ของผมทำให้ความรู้สึกอึดอัดนั้นน้อยลงครับ” คิมฮเยจา เสริมว่า “หลังจากดู My Liberation Notes ฉันคิดว่า ซนซอกกู เป็นนักแสดงที่ดีมากเลยค่ะ และฉันแนะนำเขาให้มารับบทสามีของฉันเป็นการส่วนตัวด้วยค่ะ” ซนซอกกู ตอบกลับว่า “ผู้กำกับติดต่อผมมาและบอกว่า คิมฮเยจา เลือกผมด้วยตัวเองครับ ผมจึงตอบตกลงทันทีครับ” คิมฮเยจา ยังแสดงความรักต่อละครเรื่องนี้โดยกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความงดงามของความสัมพันธ์ของมนุษย์ และฉันชอบมันมากเลยค่ะ การคิดถึงละครเรื่องนี้ทำให้ปีที่ผ่านมาสนุกจริง ๆ ค่ะ” เธอกล่าวเสริมว่า “หลังจากดูฉบับตัดต่อสุดท้ายแล้ว ฉันรู้สึกขอบคุณมาก นี่อาจเป็นโปรเจ็กต์สุดท้ายของฉัน และฉันรู้สึกว่ามันจบลงอย่างสวยงามค่ะ” อนึ่ง ‘Heavenly Ever After’ ออกอากาศตอนแรกในวันเสาร์ที่ผ่านมา เวลา 22:40 น. ทางช่อง JTBC   ที่มา Popcornfor2 รูป JTBC

พัคอึนบิน (Park Eun Bin) พูดถึงความเป็นไปได้สำหรับการสร้างซีรีส์เรื่อง ‘Extraordinary Attorney Woo’ และ ‘Hyper Knife’ ซีซั่น 2 เมื่อถามว่าซีรีส์เรื่อง ‘Extraordinary Attorney Woo’ ยืนยันว่าจะสร้างซีซั่น 2 แล้วหรือไม่ พัคอึนบินตอบว่า “รู้สึกอบอุ่นที่คนรอซีรีส์เรื่องนี้อีกซีซั่น ทำให้เห็นว่าคนรักซีรีส์เรื่องนี้มากแค่ไหน และทำให้ฉันมีความสุขในฐานะนักแสดง แต่ว่าไม่มีใครรู้อนาคตค่ะ เราไม่รู้ว่าเราจะเจอกับเรื่องอะไรและอะไรจะเกิดขึ้น” เธอพูดต่อ “ฉันคิดว่าซีซั่น 2 จะเกิดขึ้นได้ต้องมีเรื่องที่น่าเล่ามากกว่าซีซั่นแรก ถ้าไม่เป็นแบบนั้น ฉันคิดว่าคงไม่ง่ายที่จะทำต่อ และพูดตามตรง ฉันไม่ได้รับการอัพเดทข่าวหรือติดต่อมาเรื่องซีซั่น 2 เลยค่ะ” สำหรับผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดอย่าง Hyper Knife พัคอึนบินบอกว่า “ฉันไม่รู้อะไร [เกี่ยวกับซีซั่น 2] เช่นกัน เพราะว่าซีซั่น 1 เพิ่งออกอากาศไป เราเลยอยากให้คนชอบและสนับสนุนภาคนี้กันมากๆก่อน หลายคนบอกฉันว่ารอดูแบบรวดเดียวจบ และถ้าคุณชอบซีรีส์ ฉันจะดีใจมากถ้าคุณบอกต่อ บอกเราว่าชอบเรื่องนี้กันเยอะๆหลังจากดูซีรีส์กันด้วยนะคะ” Hyper Knife เล่าเรื่องของเซอ๊ก (รับบทโดย พัคอึนบิน) แพทย์ศัลยกรรมประสาทอัจฉริยะที่ตกลงสู่จุดต่ำสุดด้วยน้ำมือของ ด๊อกฮี (รับบทโดย ซอลคยองกู (Sol Kyung Gu)) อาจารย์ของเธอ ทั้ง 2 คนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในสถานการณ์ที่ตึงเครียด   ที่มา Popcornfor2 รูป The Walt Disney Company Korea

สำหรับแฟนคลับของซีรีส์เรื่อง Hospital Playlist ที่อยากให้ซีรีส์มีซีซั่น 3 ต้องบอกว่าไม่ใช่จะหมดหวังไปเสียทีเดียว เพราะ ผู้กำกับ ชินวอนโฮ (Shin Won Ho) ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ ระหว่างพูดคุยเกี่ยวกับผลงานการกำกับภาคแยกของ Hospital Playlist อย่างเรื่อง Resident Playbook ที่เพิ่งปล่อยให้ชมกันทาง Netflix ผู้กำกับกล่าวว่า “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ชมจริงๆ ถ้าเราได้รับฟีดแบคมากพอ เราอาจจะพิจารณาทำมัน” เขาพูดต่อ “ผมยังรู้สึกได้ว่ามีคนอยากให้ทำ Hospital Playlist ซีซั่น 3 ทั้งผู้ชมและนักแสดงต่างกดดันผมมาตลอด ถ้าสุดท้ายผมทำซีรีส์ภาคใหม่เรื่องนี้จริงๆ คงเพราะว่ารับความกดดันไม่ไหวนี่แหละ” เขาพูดติดตลก และยืนยันว่าหากผู้ชมยังคงแสดงความสนใจต่อซีรีส์เรื่อง Hospital Playlist ต่อไป โอกาสที่จะมีซีซั่น 3 นั้นก็ยังคงไม่หมดไป Hospital Playlist เป็นซีรีส์ทางการแพทย์ที่มีทั้งหมด 2 ซีซั่น ซึ่งออกอากาศไปเมื่อปี 2020 และ 2021 เล่าเรื่องของอาจารย์แพทย์ 5 คนที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์ พวกเขาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตในด้านต่างๆ ทั้งการสูญเสีย, ความรัก และความชื่นชอบในการทำวงดนตรี แม้งานที่โรงพยาบาลจะยุ่งก็ตาม ซีรีส์ได้รับความรักจากผู้ชมมากมาย โดย 5 นักแสดงนำได้แก่ โจจองซอก (Jo Jung Suk), ยูยอนซอก (Yoo Yeon Seok), จองคยองโฮ (Jung Kyung Ho), คิมแดมยอง (Kim Dae Myung) และ จอนมีโด (Jeon Mi Do) ส่วนเรื่อง Resident Playbook เป็นภาคแยกของเรื่อง Hospital Playlist ที่ออกอากาศตอนแรกให้ชมกันเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2025 เล่าเรื่องของแพทย์ประจำบ้านแผนกสูตินรีเวชที่ต้องรับแรงกดดันทั้งจากสิ่งแวดล้อมในการทำงานและสถานการณ์กดดัน ซีรีส์ทั้ง 2 เรื่องต่างถ่ายทอดเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจที่มีศูนย์กลางคือผู้คนที่พบเจอได้ในโลกแห่งความจริง และสำหรับภาคใหม่ของ Hospital Playlist ก็ยังมีความหวัง คงต้องพึ่งพลังของแฟนคลับเรื่องนี้ในการเป็นกระบอกเสียงให้ทีมผู้สร้างเห็นว่าการกลับมาของทีมแพทย์ศูนย์การแพทย์ยูลเจนั้นจะทำให้ผู้ชมมีความสุขมากแค่ไหน   ที่มา Popcornfor2 รูป tvN

วันที่ 10 เมษายน King Kong by Starship ต้นสังกัดของ ยูยอนซอก ได้ออกมาประกาศว่า “หลังจากเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมายและชี้แจงหลักฐาน เราพบว่ามีการตรวจสอบภาษีซ้ำซ้อน 2 ครั้งในขั้นตอนการรีวิวเอกสารขั้นแรก และเพื่อคำนวนตัวเลขภาษีใหม่ โดยไม่คิดภาษีนิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มที่ชำระไปแล้วเรียบร้อย ทำให้ยูยอนซอกต้องจ่ายเงินอีก 3 พันล้านวอน ซึ่งเขาได้ชำระไปเรียบร้อยแล้ว” ต้นสังกัดได้อธิบายต่อ “ตั้งแต่ปี 2015 ยูยอนซอกได้ทำช่อง YouTube ซึ่งเป็นกิจกรรมเพิ่มเติมจากผลงานในวงการของเขา เขายังได้ลองทำธุรกิจและเข้าสู่ธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ทำให้เกิดประเด็นขึ้นมาเพราะว่ารายได้จากส่วนนี้ถูกพิจารณาว่าเป็นเงินได้บุคคลแทนที่จะเป็นนิติบุคคล ทำให้มีการจัดเก็บภาษีเงินได้ เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์ตามกฎหมายและดำเนินการให้สอดคล้องกับการตีความและการบังคับใช้ตามกฎหมาย”   ต้นสังกัดอธิบายต่อ “เรื่องภาษีที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นการเลี่ยงภาษี หรือ ไม่จ่ายภาษี แต่มันเกิดจากการตีความที่ไม่ตรงกันของกฎหมายภาษี ยูยอนซอกเต็มใจในการจ่ายภาษีเสมอ และจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง” สำหรับก่อนหน้านี้ กรมสรรพากรได้มีการตรวจสอบภาษีของยูยอนซอก และมีการเรียกเก็บภาษีเป็นจำนวนเงิน 7 พันล้านวอน รวมถึงภาษีเงินได้ เรื่องนี้เกิดจากที่ยูยอนซอกก่อตั้งบริษัทของตัวเองชื่อว่า Forever Entertainment ซึ่งเจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจพบประเด็นเกี่ยวกับการจ่ายภาษีจากส่วนนี้ จนนำไปสู่การสอบสวน ด้านยูยอนซอกได้ปฏิเสธใบแจ้งยอดภาษี และขอให้มีการตรวจสอบขั้นต้นใหม่ เพื่อแก้ไขยอดภาษีที่ถูกเรียกเก็บ   ที่มา Popcornfor2 รูป KINGKONG by STARSHIP