นักร้องและดาราวาไรตี้ที่เพิ่งเข้าประตูวิวาห์สด ๆ ร้อน ๆ อย่าง คิมจงกุก (Kim Jong Kook) ได้กลับมาทำงานแล้ว ขณะที่เหล่าสมาชิก Running Man ต่างก็เล่ารายละเอียดทั้งหวานและฮา จากงานแต่งสุดลับของเขา ตอนล่าสุดของรายการวาไรตี้สุดฮิตทางช่อง SBS ซึ่งออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถูกถ่ายทำเพียงสามวันหลังจากที่คิมจงกุกเข้าพิธีวิวาห์ ทำให้เป็นครั้งแรกที่เขาได้พูดถึงภรรยาและงานแต่งงานของตนเองต่อสาธารณะ สมาชิกทุกคนที่ไปร่วมงานแต่งก็ไม่ปิดบังเรื่องราวเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากภรรยาของคิมจงกุกไม่ใช่คนในวงการบันเทิง สมาชิกจึงพยายามอธิบายลักษณะของเธอให้ผู้ชมฟังในมุมขำขัน ชาแทฮยอน (Cha Tae Hyun) ถึงขั้นวาดภาพเหมือนเจ้าสาว พร้อมบรรยายว่า “เธอดูสง่างาม ดวงตาสวยงาม” จีซอกจิน (Jee Seok Jin) รีบเข้ามาแก้ไขทันทีว่า “ตาเธอไม่ได้ชั้นเดียว แล้วก็ใบหน้าจะเรียวกว่า” ทำให้ชาแทฮยอนต้องปรับภาพวาดท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกคนในกองถ่าย เมื่อยูแจซอก (Yoo Jae Suk) ถามขึ้นมาลอย ๆ ว่าภรรยาของเขาทำอะไรอยู่ คิมจงกุกก็ยิ้มตอบว่า “เธอกำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้านครับ” งานแต่งงานยังมีการแสดงเพลงสุดพิเศษด้วย ยูแจซอกเล่าว่า คิมจงกุกเองก็ร้องเพลงอวยพรให้เจ้าสาวของตัวเอง แต่เขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่ทำเช่นนั้น “ชาแทฮยอนก็ร้องเพลงอวยพรด้วย” ยูแจซอกเสริม ชาแทฮยอนอธิบายถึงที่มาของการแสดงว่า “ผมไปถึงก่อนงานแต่งประมาณชั่วโมงหนึ่ง แล้วก็เห็นจงกุกกำลังซ้อมเพลงอยู่เป็นครั้งแรก จากนั้นเขาก็มาขอให้ผมร้องด้วย มันเป็นคำขอแบบกะทันหันเลย ผมก็เลยร้องเพลง ‘I LOVE YOU’ โดยไม่ได้ซ้อมอะไรเลย” การแสดงครั้งนั้นเรียกน้ำตาจากยางเซชาน (Yang Se Chan) และฮาฮา (HaHa) ซึ่งยอมรับว่า “เพราะเรารู้ถึงมิตรภาพของทั้งคู่ เลยน้ำตาไหลตอนที่ชาแทฮยอนร้องเพลง” เหล่าสมาชิกยังเล่าแบบขำ ๆ ถึงปฏิกิริยาของคิมจงกุกต่อซองเงินแต่งงาน ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปกติในเกาหลีใต้ ยูแจซอกเปิดประเด็นว่า “วันนี้ผมเห็นคิมจงกุกโมโหใส่ยางเซชานกับชเวแดเนียล (Choi Daniel) บอกว่า ‘พวกนายบ้าไปแล้วเหรอ? ทำไมให้เงินเยอะขนาดนั้น?’ เขายังโมโหใส่ผมด้วย” คิมจงกุกก็ยอมรับว่า “จริงครับ พวกเขาให้เยอะเกินไป ทั้งที่ยังช่วยเป็นพิธีกรงานแต่งอีก” ยูแจซอกเลยแซวต่อว่า “แต่เขาพูดกับจีซอกจินว่า ‘ขอบคุณนะ ซอกจิน’” ทำเอาคิมจงกุกถึงกับไปไม่เป็น จีซอกจินโวยว่า “ผมให้งานนี้เยอะที่สุดในชีวิตแล้วนะ!” คิมจงกุกก็ต้องรีบอธิบายว่า “จริงครับ เขาให้เยอะมาก แต่สองคนนั้นให้มากเกินไปจริง ๆ” แสดงให้เห็นว่านิสัยทุ่มเททำงานของเขายังคงเหมือนเดิม คิมจงกุกถึงขั้นเลื่อนทริปฮันนีมูนเพื่อมาร่วมถ่ายทำตามตารางงาน โดยเคยบอกกับโปรดิวเซอร์ว่า “งานรายการมาก่อนฮันนีมูนเสมอ”   ที่มา Popcornfor2 รูป SBS

บทพูดจอนจีฮยอนในTempest กลายเป็นประเด็นดราม่าทำชาวจีนเดือดจนโฆษณาของจอนจีฮยอนถูกถอดออก แต่ต้นสังกัดของเธอออกมาตอบโต้ว่า ไม่เป็นความจริง ซีรีส์ Tempest ที่แสดงนำโดยซูเปอร์สตาร์เกาหลี จอนจีฮยอน กำลังถูกชาวเน็ตจีนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อวันที่ 20 ก.ย. (ตามเวลาท้องถิ่น) สื่อของฮ่องกงรายงานว่า บทพูดในตอนที่ 4 ของ Tempest ถูกมองว่า “เป็นการดูหมิ่นประเทศจีน” ซีรีส์เรื่องนี้ฉายบน Disney+ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. เล่าเรื่อง มุนจู (รับบทโดยจอนจีฮยอน) เอกอัครราชทูต UN ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ซึ่งไล่ตามเบื้องหลังคดียิงผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยมี ซันโฮ (คังดงวอน) เจ้าหน้าที่พิเศษไร้สัญชาติคอยปกป้อง และร่วมกันเปิดโปงความจริงครั้งใหญ่ที่คุกคามคาบสมุทรเกาหลี ในตอนที่ 4 ตัวละครมุนจูกล่าวว่า: “ทำไมจีนถึงชอบทำสงคราม? ทั้งที่ระเบิดนิวเคลียร์อาจตกที่เขตชายแดนก็ได้” เพียงประโยคนี้ก็ทำให้ชาวเน็ตจีนโกรธจัด แสดงความคิดเห็นว่า: “จีนไม่ได้รักสงคราม เราแสวงหาสันติภาพ” “ถ้าจีนชอบสงครามจริง คุณคงไม่มีทางได้มาถ่ายซีรีส์อยู่ที่นี่หรอก” นอกจากบทพูดแล้ว ยังเกิดกระแสวิจารณ์เกี่ยวกับการถ่ายทำที่ฮ่องกง แล้วนำมาอ้างว่าเป็นเมืองต้าเหลียน (Dalian) ของจีน ซึ่งถูกมองว่า “จงใจทำให้เมืองจีนดูแย่” “ถ้าจะบอกว่าเป็นต้าเหลียน ก็ควรถ่ายทำที่ต้าเหลียนจริง ๆ” “พวกเขาทำให้เมืองต้าเหลียนดูน่ากลัว ทั้งที่จริง ๆ เป็นเมืองท่องเที่ยวสวยงาม” อีกทั้งยังมีฉากที่ตัวละครเหยียบพรมลายดาวห้าแฉก ซึ่งบางคนตีความว่าเป็นการลบหลู่ธงชาติจีน และการที่ตัวร้ายพูดภาษาจีนก็ถูกมองว่าเป็นการ “สร้างภาพลบต่อจีนโดยเจตนา” นอกจากนี้ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าจอนจีฮยอน “เจตนาออกเสียงบทกวีของกวีจีนโบราณ หลี่ไป๋ ให้ผิดเพี้ยน” ตามรายงานของ Chengdu Daily ชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่เคยชื่นชอบจอนจีฮยอนต่างรู้สึกผิดหวัง โดยเฉพาะเพราะเธอเคยโด่งดังอย่างมากในจีนจากซีรีส์ My Love From the Star (2014) จนได้งานโฆษณามากมายจากบริษัทจีน ทำให้กระแสความรักในอดีตแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ “ตอนที่เธอพูดประโยคนั้น ไม่รู้สึกว่ามีปัญหาบ้างหรือไง? อาจทำลายเส้นทางในตลาดจีนได้เลย” “ถ้านี่ไม่ใช่การดูหมิ่นจีน แล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก?” มีรายงานว่า แบรนด์บางรายที่จอนจีฮยอนเป็นพรีเซนเตอร์ เช่น เครื่องสำอางและนาฬิกา ได้ถอดโฆษณาออกแล้ว ต่อมาในวันที่ 23 กันยายน 2025 ทางต้นสังกัดของ จอนจีฮยอน ออกมาชี้แจงกระแสข่าวที่ว่าโฆษณาของเธอในจีนถูกยกเลิกหลังเกิดดราม่าซีรีส์ Tempest ว่า “ไม่เป็นความจริง” ต้นสังกัดเผยว่า “เราได้ติดต่อกับเอเจนซี่ฝั่งจีนโดยตรง และได้รับคำตอบว่าสิ่งที่รายงานออกมาไม่ตรงกับความจริง การถ่ายทำโฆษณาและงานที่วางแผนไว้มีการเลื่อนออกไปจริง แต่ไม่ได้ถูกยกเลิก” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า “การเลื่อนงานดังกล่าวมีการตัดสินใจก่อนที่ Tempest จะออกอากาศ และเป็นเพราะสถานการณ์ในพื้นที่นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นดราม่าแต่อย่างใด” ทั้งนี้ แม้ Disney+ และ Netflix จะยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในจีน แต่ก็มีการรับชมผ่านช่องทางเถื่อนจำนวนมาก ด้าน Disney+ เปิดเผยว่า Tempest กลายเป็นผลงานออริจินัลเกาหลีที่มียอดชมสูงที่สุดของปีนี้ทั้งในเกาหลีและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงทั่วโลก ด้วยการแสดงอันเข้มข้นของจอนจีฮยอนและคังดงวอนที่เคมีเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ   ที่มา Popcornfor2 รูป Newsis

จีฮยอนอู (Ji Hyun Woo) และ อีเซฮี (Lee Se Hee) กลายเป็นคู่ที่ถูกจับตาอย่างหนัก หลังจากรายการ Jun Hyun Moo’s Plan Season 2 หยอกล้อถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จนแฟน ๆ พากันคาดเดาว่าอาจกำลังมีรักนอกจอจริง ๆ คล้ายกับบทบาทในซีรีส์ Young Lady and Gentleman ที่เคยสร้างชื่อไว้ ในรายการซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 19 กันยายน ทางช่อง MBN จอนฮยอนมู (Jun Hyun Moo) ได้แซวเล่นแบบมีนัยะว่า “สัญชาตญาณบอกผมว่า จีฮยอนอู กับ อีเซฮี อาจจะไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันนะครับ” คำพูดดังกล่าวทำเอาบรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและลุ้นไปพร้อม ๆ กัน สองนักแสดงเคยรับบทพระนางคู่กันในละครสุดฮิต Young Lady and Gentleman ทาง KBS2 โดยเคมีอันเข้ากันของพวกเขาเคยได้รับคำชมอย่างล้นหลาม  คราวนี้ จอนฮยอนมู ได้ขยี้ต่อด้วยการเปรียบเทียบ “ความคล้าย” ที่ชวนให้สงสัย เช่น ทั้งคู่ต่างก็มีนิสัยชอบเขียนข้อความหรือวลีสั้น ๆ ไว้รอบ ๆ บ้าน พร้อมถามแหย่ว่า “ใครเป็นคนเริ่มก่อนกัน หรือว่าใครไปมีอิทธิพลกับใครก่อน?” ไม่เพียงเท่านั้น ยูจีน (Eugene) ซึ่งร่วมรายการในวันนั้นด้วย ยังได้ถามตรง ๆ ว่า “สองคนนี้กำลังคบกันอยู่หรือเปล่าคะ?” ยิ่งทำให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้นไปอีก จีฮยอนอู ที่ดูออกอาการเขิน ยิ้มตอบแบบกำกวม ยิ่งทำให้กระแสข่าวลือทวีความเข้มข้นขึ้น รายการยังขึ้นซับไตเติลเปรียบเทียบสถานการณ์ครั้งนี้ว่าเป็น “เวอร์ชั่นชีวิตจริงของ Young Lady and Gentleman” เพิ่มสีสันให้ผู้ชมสนุกไปกับการลุ้นรักในครั้งนี้  แม้ จีฮยอนอู จะพยายามแก้ต่างด้วยคำพูดว่า “บางครั้งการที่เหมือนกันมากเกินไป ก็อาจหมายถึงว่าเข้ากันไม่ได้นะครับ” แต่แฟน ๆ กลับยิ่งสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทั้งคู่มีอายุห่างกันถึง 7 ปี ยิ่งเพิ่มประเด็นให้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง จอนฮยอนมู ยังย้ำว่าลางสังหรณ์ของเขา “แรงมาก” ส่วน จีฮยอนอู ก็ยอมรับว่าตัวเขาเองยังแปลกใจกับความคล้ายคลึงหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น เรื่องราวแบบหยอกล้อสบาย ๆ นี้ กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ทันที แฟน ๆ ต่างถกเถียงกันว่า “นี่อาจจะกำลังเลียนแบบชีวิตจริงอยู่หรือเปล่า?”   ที่มา Popcornfor2 รูป Spoets Chosun

พัคกยูยองเผยถึงความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับชาอึนอูให้แฟน ๆ ได้เห็น นักแสดงสาวปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญคนแรกในช่องยูทูบของฮงซอกชอน “Top Gay Box” เมื่อวันที่ 16 กันยายน โดยเป็นการเปิดเซกเมนต์ใหม่ชื่อ “Hong Seok Cheon’s Magnet Box” ซึ่งฮงได้อธิบายว่า รายการนี้ตั้งใจเชิญผู้หญิงที่มีเสน่ห์และความงามมากพอจะ “ดึงดูดแม้แต่ผู้ชายที่ปกติไม่สนใจผู้หญิง” ระหว่างการพูดคุย ฮงซอกชอนได้ย้อนถามถึงผลงานที่ผ่านมา และถามว่ากยูยองรู้สึกว่ามีเคมีเข้ากับนักแสดงคนไหนมากที่สุด เธอตอบว่า  “จริง ๆ แล้วทุกคนก็ดีมาก แต่ฉันสนิทกับอึนอูมากเป็นพิเศษตอนถ่ายทำ เพราะอายุใกล้ ๆ กัน เลยเข้ากันได้เร็ว” (พัคกยูยอง 32 – ชาอึนอู 28 ) เมื่อฮงซอกชอนและพิธีกรร่วม แสดงอาการอิจฉาอย่างชัดเจน กยูยองหัวเราะแล้วตอบว่า “เราสองคนเหมือนพี่น้องกันเลย—จริง ๆ อึนอูออกจะเหมือนน้องชายมากกว่า” ทั้งคู่เคยร่วมงานกันครั้งแรกในมิวสิกวิดีโอ “You’re the Reason” ของ Urban Zakapa ปี 2018 ก่อนจะกลับมาพบกันอีกครั้งในซีรีส์ A Good Day to Be a Dog ปี 2023 เมื่อถูกถามว่ามีแผนจะไปเยี่ยมชาอึนอูระหว่างรับราชการทหารหรือไม่ กยูยองตอบติดตลกว่า “ยังไม่มีค่ะ แต่ถ้าวันนี้คุณทำให้ฉันดูสวย ฉันจะลองถามอึนอูดู” สำหรับผลงานต่อไป พัคกยูยองเตรียมแสดงใน Mantis ที่มีกำหนดออกอากาศวันที่ 26 กันยายนนี้ทาง Netflix   ที่มา Popcornfor2 รูป ‘Top Gay Box’ YouTube Channel

ผู้ชนะรางวัล Seoul Drama Awards 2025 ได้รับการประกาศแล้ว โดย จูจีฮุน (Ju Ji Hoon) และ ไอยู (IU) คว้ารางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม รางวัล K-Drama Best Drama ตกเป็นของซีรีส์ The Trauma Center ของ Netflix และ When Life Gives You Tangerines ของ Netflix ซึ่งซีรีส์นักแสดงนำจากซีรีส์ทั้ง 2 เรื่อง ได้แก่ จูจีฮุน (Ju Ji Hoon) จากเรื่อง The Trauma Center และ ไอยู (IU) จากเรื่อง When Life Gives You Tangerines สามารถคว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมไปได้ คณะกรรมการกล่าวชื่นชมการแสดงของ ไอยู (IU) ในบท แอซุน จากซีรีส์ฮิต When Life Gives You Tangerines ของ Netflix ว่า: “เรื่องราวของแอซุน(รับบทโดย ไอยู (IU) และ กวานชิก (รับบทโดย พัคโบกอม (Park Bo Gum) นั้นเต็มไปด้วยความละเมียดละไมราวภาพสีน้ำ และภายในกรอบนั้น ไอยู ถ่ายทอดอารมณ์ได้ลึกซึ้ง เกินกว่าจะเป็นเพียงเรื่องรักโรแมนติกธรรมดา”   ในส่วนของการแข่งขันนานาชาติ เคต บลันเชตต์ (Kate Blanchett) จากเรื่อง Disclaimer และ คิมมินฮา (Kim Min Ha) จากเรื่อง Pachinko Season 2 ได้รับรางวัลร่วมในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สำหรับ คิมมินฮา (Kim Min Ha) ซึ่งรับบท ซอนจา นี่ถือเป็นรางวัลนักแสดงนำหญิงรางวัลแรกในอาชีพการแสดงของเธอ โดยคณะกรรมการกล่าวชื่นชมถึงความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์หลากหลายเพียงแค่ “สายตาเดียว — ผสมผสานทั้งความอ่อนโยน ความเข้มแข็ง ความกล้า และความละเอียดอ่อนอย่างลงตัว” ในปีนี้ มีผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 276 เรื่อง จาก 50 ประเทศ และมีการมอบรางวัลให้กับซีรีส์ 7 เรื่อง และบุคคล 16 คน ในหมวดการแข่งขันนานาชาติ, ซีรีส์เกาหลี และการเชิญเข้าร่วม ผู้ชนะรางวัลสำคัญอื่น ๆ รางวัล Golden Bird Prize: เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller), Severance Season 2 ของ Apple TV+ (สหรัฐอเมริกา) การแข่งขันนานาชาติ รางวัล Grand Prize: Adolescence ของ Netflix (สหราชอาณาจักร) รางวัล Best Single Drama: The Son ของ CJ ENM (เกาหลีใต้) รางวัล Best Miniseries: Pachinko Season 2 ของ Apple TV+ (สหรัฐอเมริกา) รางวัล Best Long Series: The Good & The Bad ของ AY Yapim (ตุรกี) รางวัล Best Director: ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ (Hirokazu Koreeda) จากเรื่อง Asura และ ฟิลิป บารานตินี (Philip Barantini) จากเรื่อง Adolescence รางวัล Best Screenwriter: แดน เอริคสัน (Dan Erickson) จากเรื่อง Severance Season 2 รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: โอเวน คูเปอร์ (Owen Cooper) จากเรื่อง Adolescence รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม: เคต บลันเชตต์ (Kate Blanchett) จากเรื่อง Disclaimer / คิมมินฮา (Kim Min Ha) จากเรื่อง Pachinko Season 2 หมวด ซีรีส์เกาหลี รางวัล Best Drama: The Trauma Code: Heroes on Call ของ Netflix, When Life Gives You Tangerines ของ Netflix รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: จูจีฮุน (Ju Ji Hoon) จากเรื่อง The Trauma Code: Heroes on Call รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม: ไอยู (IU) จากเรื่อง When Life Gives You Tangerines รางวัล Best Original Soundtrack: ยองทัก (Young Tak) เพลง “Unknown Life” (จากเรื่อง For Eagle Brothers) Asia Star Awards เกาหลี: คิมซอนโฮ (Kim Sun Ho) จากเรื่อง The Tyrant, จีซู (Jisoo) จากเรื่อง Newtopia ญี่ปุ่น: เคนทาโร ซากากุจิ (Kentaro Sakaguchi) จากเรื่อง Beyond Goodbye จีน: ไป๋อวี๋ (Bai Yu) จากเรื่อง Bank on Me ไทย: ฟิล์ม รชานันท์ มหาวรรณ์ จากเรื่อง Pluto ฟิลิปปินส์: ดาเนียล ปาดิลลา (Daniel Padilla) จากเรื่อง Incognito มาเลเซีย: แอนนา จอบลิง (Anna Jobling) จากเรื่อง Dear Love   ที่มา Popcornfor2 รูป Newsen

นักแสดง อีพิลโม ได้เผยความคิดถึงที่มีต่อคุณแม่ผู้ล่วงลับ ในรายการวาไรตี้ของช่อง Channel A “절친 토큐멘터리 – 4인용 식탁” ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ได้เผยให้เห็นชีวิตประจำวันของอีพิลโม นักแสดงที่เดบิวต์มากว่า 27 ปี เขาได้เชิญเพื่อนสนิทที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยโซลอาร์ตปี 1993 อย่าง อีจงฮยอก และ คิมมินคโย มาที่บ้าน เมื่อถูกถามว่า “คุณแม่เก่งด้านการลงทุนไหม” อีพิลโมตอบว่า “ใช่ครับ ผมเป็นคนที่จัดการเรื่องเงินไม่เก่งที่สุดเลย สมัยก่อนเรามีบ้านอยู่แถวบังแบดง แต่แม่ก็ขยับขยายไปซื้อเพิ่ม จนตอนนี้ที่ผมพอมีฐานะทางการเงินก็เป็นเพราะแม่ทั้งหมด” พร้อมทั้งแสดงความกตัญญู เขายังเล่าว่า “คุณพ่อมีลูกสามคนแต่ไม่เคยทำงานหาเงินเลย ใช้ชีวิตแบบเกือบจะไม่ทำอะไร แม่ผมเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบเรื่องการเงินของบ้านมาตลอด” อีพิลโมเผยอีกว่า “แม่ใช้ชีวิตแบบประหยัดมาตลอด เวลาผมได้ค่าตัวจากการแสดง ถ้าเป็นไม่กี่ล้านวอนผมก็ใช้เอง แต่ถ้าเกินสิบล้านวอนผมจะให้แม่ทั้งหมด แบบนี้ตลอด 20 ปี” เขาเล่าว่า “แม่เอาเงินเหล่านั้นไปลงทุน เป็นสิ่งที่ท่านไม่เคยทำมาก่อนด้วยซ้ำ บางครั้งระหว่างที่ผมถ่ายละคร แม่จะโทรมาแล้วบอกว่า ‘รีบมาเซ็นเอกสารหน่อย’ ผมไปดูอีกทีก็กลายเป็นตึกไปแล้ว” อีพิลโมยังกล่าวด้วยความเคารพว่า “ทุกครั้งที่ผมต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิต ถ้าปรึกษาแม่ ท่านจะชี้ทางออกให้เสมอ ด้วยสายตาที่เฉียบคมของแม่ ทำให้ผมสามารถเดินบนเส้นทางนักแสดงมาได้จนถึงวันนี้” อย่างไรก็ตาม คุณแม่ของเขาเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองในเดือนมีนาคม 2023 เขากล่าวทั้งน้ำตาว่า “ตอนแม่จากไป ผมอยากทำทุกอย่างที่ดีที่สุดให้ท่านในเส้นทางสุดท้ายของชีวิต จึงจัดงานศพโดยใช้พื้นที่ทั้งชั้น พร้อมทั้งเตรียมอาหารและพิธีต่าง ๆ โดยไม่คิดถึงค่าใช้จ่าย” เขายังรำลึกถึงความทรงจำสุดท้ายกับแม่ว่า “ครั้งหนึ่งแม่ไปเที่ยวเชจูและได้นั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก ท่านดีใจเหมือนเด็กผู้หญิงที่ตื่นเต้นกับการบิน ภาพนั้นยังชัดเจนในใจผมมาก ผมชอบความทรงจำนั้นมากจนปีที่แล้วผมเดินคนเดียวครบ 100 กม. บนเส้นทางเซกวีโพ 11 คอร์ส ระหว่างเดินก็คิดถึงแม่จนร้องไห้ออกมา” อีพิลโมเผยว่าเขายังเก็บเสื้อผ้าที่แม่ใส่ในวันที่เข้าโรงพยาบาลไว้จนถึงตอนนี้ เขายังเปิดใจด้วยความเจ็บปวดว่า “ผมยังไม่กล้าบอกพ่อว่าคุณแม่เสียแล้ว หลังแม่เข้าโรงพยาบาลได้สี่วัน พ่อก็ต้องเข้ารักษาเหมือนกัน และแม่ก็จากไปในอีกสามเดือนต่อมา ตอนนี้พ่อหูไม่ค่อยดี ความจำก็ถดถอย ผมเลยไม่รู้จะบอกยังไงจนถึงตอนนี้” เขาเสริมว่า “ผมคิดว่าพ่อก็คงรู้สึกได้บ้าง แต่ท่านไม่เคยถามเรื่องแม่เลย แม้เวลาผ่านมา 2 ปีแล้วก็ยังไม่เคยพูดถึง บางครั้งผมเลยคิดว่า ‘หรือพ่อจะลืมแม่ไปแล้ว’” เมื่อได้ฟังเรื่องนี้ พัคคยองลิม ที่อยู่ในรายการด้วยกล่าวปลอบใจว่า “บางทีคุณพ่ออาจจะไม่ได้อยากไม่ถาม แต่เพราะถ้าถามแล้วได้รับคำตอบ ก็เท่ากับความจริงเรื่องการจากไปของแม่ชัดเจนขึ้น พอไม่ถามไม่ฟัง มันก็ยังเหลือความหวังอยู่นะ”   ที่มา Popcornfor2 รูป Channel A