จำนวนศิลปินเคป็อปที่ออกมาแสดงความคิดเห็น — หรือถูกพูดแทน — กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องในต่างประเทศที่จุดกระแสความไม่พอใจเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติในวงการบันเทิงตะวันตก ล่าสุด ประเด็นร้อนเกิดขึ้นกับ โรเซ่ (Rosé) BLACKPINK เธอถูกตัดภาพออกจากภาพถ่ายหมู่โดยนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง ทั้งที่เธอเป็นหนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับแนวหน้าของ Saint Laurent
โรเซ่ ได้เข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ Saint Laurent 2026 Spring/Summer Womenswear ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Saint Laurent ซึ่งเธอได้รับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2020 ต่อมาในวันที่ 1 ตุลาคม เธอได้โพสต์ภาพและวิดีโอจากงาน พร้อมข้อความขอบคุณถึงครีเอทีฟไดเรกเตอร์ Anthony Vaccarello ว่า
“ขอบคุณที่เชิญฉันมาชมโชว์อันยอดเยี่ยมอีกครั้งนะคะ ผลงานของคุณช่างงดงามเหลือเกิน รักคุณค่ะ”
กระแสดราม่าเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Elle UK โพสต์ภาพถ่ายหมู่ที่ โรเซ่ ถ่ายร่วมกับ Hailey Bieber, Zoë Kravitz และ Charli XCX — แต่กลับตัดภาพของ โรเซ่ ออกไปทั้งหมด ขณะที่นิตยสารแฟชั่นอื่น ๆ เช่น Vogue ได้โพสต์ภาพเต็ม ทำให้แฟน ๆ จำนวนมากออกมาโจมตี Elle UK ว่ามีพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ
สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อ Charli XCX แชร์ภาพอีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่ โรเซ่ ปรากฏตัวอยู่ในเงามืดแทบมองไม่เห็น และ Hailey Bieber ยังนำภาพนั้นไปโพสต์ต่อบน Instagram Stories ของตนอีกด้วย เมื่อกระแสต่อต้านรุนแรงขึ้น Elle UK จึงออกมาโพสต์ภาพเดี่ยวของ โรเซ่ เพิ่มเติม แต่เสียงวิจารณ์ต่อนิตยสารก็ยังคงหนักหน่วง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ โรเซ่ ไม่ใช่กรณีแรก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ศิลปินเคป็อปหลายคนต่างต้องเผชิญเหตุการณ์คล้ายกัน ตั้งแต่การถูกเมินเฉยบนพรมแดง ไปจนถึงการถูกพูดจาดูหมิ่น แม้กระแสความนิยมของวงการเคป็อปจะพุ่งสูงระดับโลกก็ตาม
ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 77 เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2024 ยุนอา (YoonA) สมาชิกวง Girls’ Generation ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหญิงรายหนึ่งขัดขวางไม่ให้เธอโพสท่าถ่ายรูปกับช่างภาพ แม้ ยุนอา จะยังคงยิ้มและพยายามรักษามารยาท แต่สุดท้ายเธอก็แสดงท่าทีไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่เจ้าหน้าที่คนนั้นยังคงกันเธอไว้ รายงานในภายหลังเผยว่าเจ้าหน้าที่คนเดียวกันนี้เคยขัดขวางนักร้องชาวแอฟริกัน-อเมริกัน Kelly Rowland และนักแสดงสาวชาวโดมินิกัน Massiel Taveras เช่นกัน ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีแรงจูงใจทางเชื้อชาติอยู่เบื้องหลัง
ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน วง Stray Kids กลายเป็นศิลปินเคป็อปวงแรกที่ได้เข้าร่วมงานแฟชั่นระดับโลก Met Gala ทั้งวง แต่ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นั้นกลับถูกบดบังด้วยคำพูดเหยียดเชื้อชาติจากผู้สื่อข่าวบางราย โดยมีรายงานว่าสมาชิกถูกพูดว่า “พวกคุณดูบิดเบี้ยวไปหมดเลยนะ” “ตัวเตี้ยจัง ลองกระโดดดูสิ” และ “ไม่เคยเห็นใครหน้าตาไร้อารมณ์แบบนี้มาก่อน”
ในตอนนั้น บังชาน (Bang Chan) หัวหน้าวงเชื้อสายเกาหลี-ออสเตรเลีย ได้ตัดสินใจพาสมาชิกทั้งหมดเดินออกจากจุดสัมภาษณ์อย่างเงียบ ๆ
แม้แต่ เจนนี่ (Jennie) BLACKPINK เองก็เคยตกเป็นประเด็นเรื่องการเหยียดเชื้อชาติในงานแฟชั่นโชว์ Chanel Cruise 2024 ในตอนนั้นดาราสาว Margaret Qualley ได้เอื้อมมือไปจับผมสีบลอนด์ใหม่ของ เจนนี่ พร้อมถามว่า “ของจริงเหรอ?” ต่อมาในขณะที่ เจนนี่ เอนตัวเข้าไปเพื่อทักทายด้วยการจูบแก้มตามธรรมเนียม Qualley กลับหันหน้าหนีอย่างกะทันหัน ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ให้เกียรติและมีอคติทางเชื้อชาติ
แม้บางคนจะพยายามอธิบายว่า Qualley อาจไม่ชอบการสัมผัสทางกาย แต่ภาพถ่ายในอดีตที่เธอแลกจูบแก้มกับคนดังมากมายกลับทำให้คำอธิบายนั้นขาดน้ำหนักไป
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่วัฒนธรรมป๊อปของเกาหลีกำลังเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกมากกว่าที่เคย ภาพยนตร์แอนิเมชั่น “K-pop Demon Hunters” ที่ประสบความสำเร็จเมื่อไม่นานนี้ ยิ่งช่วยกระตุ้นความสนใจระดับนานาชาติในดนตรีและวงการบันเทิงของเกาหลีให้เพิ่มสูงขึ้น แต่ทว่าทัศนคติของสังคมตะวันตกที่มีต่อคนดังเชื้อสายเอเชีย กลับดูเหมือนยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก
ที่มา popcornfor2
รูป ELLE UK